ผมเคยมีประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อตอนที่ผมยังเด็ก ตอนนั้นผมอายุประมาณ 10 ขวบ และกำลังนอนหลับอยู่ในห้องคนเดียว กลางดึกผมก็รู้สึกตัวขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงคนเดินอยู่ในห้อง ตอนนั้นผมตกใจมาก แต่ผมก็ข่มตาหลับต่อเพราะคิดว่าอาจเป็นเสียงจินตนาการของผมเอง

แต่แล้วผมก็ได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง คราวนี้ผมแน่ใจว่าไม่ใช่เสียงจินตนาการแน่ๆ ผมจึงตัดสินใจเปิดตาดู

สิ่งที่ผมเห็นก็คือ ร่างเงาดำๆ คนหนึ่งยืนอยู่ข้างเตียงของผม ร่างเงานั้นสูงใหญ่และดูน่ากลัวมาก ผมตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูก ผมทำได้เพียงแค่นอนนิ่งๆ อยู่อย่างนั้น

ร่างเงานั้นยืนอยู่ข้างเตียงของผมอยู่ประมาณ 10 นาที ก่อนที่มันจะค่อยๆ เดินหายไป ผมค่อยๆ หลับตาลงอีกครั้งด้วยความกลัว

หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ผมก็มักจะฝันร้ายเกี่ยวกับร่างเงาดำๆ นั้นอยู่บ่อยๆ ทุกครั้งที่ฝัน ผมก็จะตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจและรู้สึกกลัวมาก

ผมไม่รู้ว่าร่างเงาดำๆ นั้นคืออะไร แต่ผมเชื่อว่ามันเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวที่สุดที่ผมเคยเจอมาในชีวิต

นอกจากประสบการณ์นี้ ผมก็เคยเจอประสบการณ์แปลกๆ อื่นๆ อีก เช่น เคยเห็นเงาคนเดินผ่านหน้าห้อง เคยได้ยินเสียงคนร้องโหยหวน เคยเห็นวัตถุเคลื่อนไหวเอง เป็นต้น

ผมไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นอะไร แต่ผมเชื่อว่ามันคือสิ่งที่อยู่นอกเหนือความเข้าใจของมนุษย์

ผมเชื่อว่าโลกของเรามีสิ่งลึกลับมากมายที่เรายังไม่รู้ และประสบการณ์เหล่านี้ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงสิ่งเหล่านั้น

ถึงแม้ว่าประสบการณ์เหล่านี้จะน่ากลัว แต่ผมก็เชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้เราได้เรียนรู้และเติบโตขึ้น เพราะมันทำให้เราตระหนักถึงความไม่แน่นอนของชีวิต และทำให้เรารู้จักที่จะอยู่กับความกลัว

ต่อไปนี้เป็นประสบการณ์ขนหัวลุกของคนอื่นที่ผมเคยอ่านมา

เมื่อเปิดไฟดู เธอก็เห็นร่างเงาดำๆ คนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ร่างเงานั้นสูงใหญ่และดูน่ากลัวมาก เธอตกใจมากจนกรีดร้องออกมา ร่างเงานั้นจึงค่อยๆ เดินหายไป

เมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้ผู้หญิงคนนั้น เธอก็หันมามองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด เธอพูดกับเขาว่า "ช่วยฉันด้วย ฉันกลัว"

เขาจึงตัดสินใจพาผู้หญิงคนนั้นขึ้นรถและพาเธอกลับบ้าน แต่พอมาถึงบ้านของผู้หญิงคนนั้น เธอก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

พวกเขาจึงตัดสินใจจ้างนักจิตวิทยามาตรวจสอบบ้าน พวกเขาพบว่าบ้านหลังนั้นเคยเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้น และวิญญาณของเหยื่อยังคงสิงสถิตอยู่ในบ้าน

นักจิตวิทยาจึงแนะนำให้ครอบครัวย้ายออกจากบ้านหลังนั้น ซึ่งพวกเขาก็ได้ทำตามคำแนะนำและย้ายออกจากบ้านหลังนั้นไป

ประสบการณ์ขนหัวลุกเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ในโลกใบนี้มีสิ่งลึกลับอีกมากมายที่เรายังไม่รู้ และประสบการณ์เหล่านี้ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงสิ่งเหล่านั้น